วันที่ 7 กรกฎาคม นายอานนท์ นำพา นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนในประเด็นที่ออกมาเตือนก้าวไกลว่าไม่ควรถอยเรื่อง ม.112 เพื่อหวังให้ได้รับเสียงโหวตนายกฯ โดยบอกว่า การที่ออกมาส่งสัญญาญเตือนไม่ใช่เพราะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้นำต้องรู้จักรุกได้ถอยเป็น ที่ผ่านมาแกนนำของทั้งพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยถูกกดดันมาเยอะแต่อยากให้คำแนะนำและเตือนสติในฐานะเพื่อน เพื่อจะบอกว่าเพดานลดไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
กกต.เล็งสอบเอาผิด “ก้าวไกล” ฐานอื่น ปมชูแก้ ม.112 แม้ตีตกคำร้องยุบพรรค
"อนุทิน" ย้ำไม่โหวตหนุนนายกฯ ที่มาจากพรรคแตะ ม.112
นายอานนท์ กล่าวว่า ทางพรรคก้าวไกลกับ 8 พรรคร่วม มีหลายนโยบายที่ยังเห็นไม่ตรงกันอยู่ เข้าใจว่าอยากให้การทำงานและนโยบายของฝ่ายพรรคร่วมเดินหน้าต่อไป แต่ก้าวไกลควรระมัดระวังท่าที่ไม่ถอยจนเกินไป อย่างการเลือกประธานสภาก็ถอยมาแล้ว ดังนั้นการแก้ไขกฎหมาย ม.112 และการออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็ไม่ควรถอยอีก เพราะเป็นความหวังของประชาชน 14 ล้านเสียงที่เลือกก้าวไกลเข้ามา
“ผมคิดว่าควรเอาเข้าสภาถ้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่สบายใจหรือไม่เห็นด้วยก็ไปถกเถียงกันในสภา เราจะดีใจมากถ้าตัวแทนของเราได้เข้าไปถกเถียงกัน จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไปถกเถียงกันในสภาถ้าตัดตั้งแต่แรกเหมือนตัดทางออกของประเทศ อย่าลืมว่าในการชุมนุมทางการเมืองถ้านับตั้งแต่สมัยเสื้อแดงมา เรื่องก็อยู่ที่เรื่องเดียวมันพูดชัดเจนของแต่ละช่วงเวลามันต่างกันคนรุ่นใหม่ที่มาชุมนุมก็ชัดเจนเรื่องปฎิรูปสถาบันขั้นต่ำสุดในการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ควรเข้าสู่สภา มันมีข้อดีคือเราจะเห็นฝ่ายที่แก้และไม่แก้ต้องเถียงในสภา”
อีกประเด็นคือการประนีประนอมกับขั้วรัฐบาลเดิม นายอานนท์ มองว่าก็ต้องระวังเช่นกัน ถ้าก้าวไกลและเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เพียงหวังเป็นนายกฯอย่างเดียว ประชาชนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่เอาด้วยแน่นอน โดยการที่พรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม จะโหวตนายกฯให้นายพิธาเพื่อรักษาศักดิ์ศรี ส.ส. ตนว่าเป็นไปได้ เขาอาจจะไม่ถึงขนาดมาร่วมรัฐบาล ถ้าพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยจะไปจับมือเพื่อต่ำแหน่งแห่งหน ตนว่าประชาชนไม่เอาด้วย
“อย่าลืมว่าช่วงที่เพื่อไทยเขาเซๆ ก่อนเลือกตั้ง เพราะจุดยืนจับมือไม่จับมือกับทาง 3 ป. พอเลือกตั้งเสร็จ ผมคิดว่าท่าทีของก้าวไกลและเพื่อไทยต้องชัดเจนกองเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตยเขาไม่เอาแน่ๆ ถ้าเป็นภูมิใจไทยหรือพรรคอื่นๆ ผมคิดว่าถ้าพรรคอื่นๆจะรักษาศักดิ์ศรีของ ส.ส. ที่จะต้องปิดสวิตซ์ ส.ว.ร่วมกันก่อนแล้วมาสู้กันใหม่ ผมคิดว่าอย่างประชาธิปัตย์หรือภูมิใจไทยหรือพรรคอื่นๆ ที่เขาจะปิดส.ว. ก็โอเค”
เมื่อถามว่าการประนีประนอมหรือร่วมกับขั้วรัฐบาลเดิมรูปแบบไหนที่ฝ่ายประชาธิปไตยรับได้ แบบไหนที่รับไม่ได้ นายอานนท์ บอกว่า เส้นแบ่งก็คือการจับมือเป็นมิตรกันร่วมงานกันรูปแบบนี้คิดว่าไม่ได้ ฝ่ายประชาธิปไตยเขาไม่ยอมรวมถึงในทางนโยบายด้วยทั้ง ม.112 การปฎิรูปกองทัพ ถอยไม่ได้ ดังนั้นทุกพรรคการเมืองควรเอาร่างกฎหมายของพรรคการไกลเข้าไปถกเถียงในสภา
นายอานนท์ ยังพูดถึงท่าทีของของกองเชียร์ก้าวไกลและเพื่อไทยด้วยว่า อาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นในการแสดงออก ควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะการจะตั้งรัฐบาลและทำงานให้สำเร็จก้าวไกลยังต้องพึ่งพาพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีสปิริตมากพอที่จะไม่กลับไปจับมือกับฝ่ายเผด็จการแบบหักหน้าประชาชนที่เลือกตั้งมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 13 ก.ค. วันโหวตนายกฯ ม็อบออแกนิคนั้น เราว่าเขาเริ่มมีการคุยกัน ถ้านัดรวมตัวกันจริงๆ คงไม่ได้มีอะไรมาก ไม่ได้ไปกดดัน แต่ไปในลักษณะให้กำลังใจ 2 พรรคมากกว่าคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม