นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (มหาชน) ได้บรรยายภายใต้หัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจไทย การเงิน ตลาดทุนไทย ในมิติการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวระดับสูง ประจำปี 66 จัดโดยธนาคารกรุงเทพร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า

“ระบบตลาดและทุนนิยมซึ่งเป็นแนวคิดหลักขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แม้จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลากหลายด้าน รวมถึงพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นมาตลอดหลายทศวรรษ แต่ในเวลาเดียวกันก็ได้สร้างปัญหาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม การบุกรุกป่า ปัญหามลพิษ PM2.5 ทรัพยากรน้ำขาดแคลน ชนบทที่อ่อนแอลง ปัญหาแรงงานในชุมชนเมือง และความเหลื่อมล้ำในมิติการพัฒนาด้านต่าง ๆ จึงสะท้อนให้เห็นถึงว่าเป็นการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน และยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม”

นอกจากนี้ ปัญหาดังกล่าวยังสังเกตได้จากความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งของประชาชนในประเทศไทย เช่น ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนที่มีรายได้สูง 20% บน และกลุ่มคนรายได้ต่ำ 20% ล่าง มีความมั่งคั่งโดยเฉลี่ยเติบโตต่างกัน 10 เท่า และมีการถือครองที่ดินแตกต่างกัน 300 เท่า หรือบัญชีเงินฝากที่มีมากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นมีประมาณ 1 ล้านบัญชี คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า 1% จากทั้งหมด 110 ล้านบัญชี แต่บัญชีเหล่านี้มีสัดส่วนของเงินฝากมากกว่า 70% ของปริมาณเงินฝากทั้งหมด

“การพัฒนาให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นนับเป็นเรื่องดี มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในเวลาเดียวกันนั้นมันได้ทำให้เราสั่งสมปัญหาต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ที่ผ่านมาเราอาจจะมองระบบแบบนี้ดีเกินไป มันจึงเหมือนกลายเป็น “ความสำเร็จที่ไม่สำเร็จ” เราเคยคิดว่าเราพัฒนาจากข้างบนแล้วมันจะส่งไปถึงข้างล่างให้มันดีเอง แต่สิ่งที่เห็นในวันนี้มันสะท้อนว่าไม่ใช่ และยิ่งถ้าเราไม่เริ่มเปลี่ยนกันตั้งแต่วันนี้ อีก 20 ปีข้างหน้าจะอยู่กันยากมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราต้องพูดถึง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” กันอย่างจริงจัง”

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า แนวคิดที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการแก้ไขปัญหานี้ควรเริ่มสร้าง “ความแข็งแกร่งจากฐานราก” โดยต้องเข้าใจลงลึกถึงระดับชุมชนที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังใน 3 เรื่อง คือ 1.ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยสูงมากจนไม่มีทางจ่ายคืนเงินต้นได้หมด ทำให้คนที่เข้าไปสู่วงจรนี้ไม่สามารถหลุดออกมาได้ง่าย 2.ปัญหาระบบคนกลาง ที่ครอบครองส่วนต่างมากเกินไปจนทำให้รายได้ไปถึงเกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และ 3.ปัญหาการขาดแคลนความรู้และนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ดังนั้น แนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้าง “ความแข็งแกร่งจากฐานราก” จึงควรสนับสนุนให้ 1.สร้างผู้นำชุมชนที่เข้มแข็งและสามารถแนะนำให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะการสร้างพื้นฐานการเก็บออม และสกัดปัญหาหนี้นอกระบบ 2.การลดบทบาทของระบบคนกลาง เช่น การรวมกลุ่มของชุมชนเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง และขายสินค้าตรงไปที่ผู้บริโภค ซึ่งอาจนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น E-Commerce และ 3.ควรสนับสนุนภาคเอกชนให้เข้ามาสนับสนุนชุมชนและภาคเกษตรโดยตรง มีแนวทางที่ชัดเจนและยั่งยืน เช่น การหาตลาดมารองรับกับสินค้าเกษตรโดยตรง ในราคาที่เหมาะสม และอาจส่งเสริมด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อจูงใจให้เอกชนดำเนินการลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

ขณะเดียวกันภาครัฐควรเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรค เพื่อให้การพัฒนาในมิติใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นเป็นสำคัญ มากกว่านโยบายหรือมาตรการแบบแจกเงินที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนถือเป็นโจทย์ให้กับรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาบริหารประเทศต่อไปคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

By admin